ทั่วไทย – กลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ จังหวัดนครสวรรค์ยื่นเรื่อง ให้ สส.บัญชา เดชเจริญศิริกุล และคณะ สส. เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

กลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ จังหวัดนครสวรรค์ยื่นเรื่อง ให้ สส.บัญชา เดชเจริญศิริกุล และคณะ สส. เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 25 68 กลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดนครสวรรค์ เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพด อำเภอตากฟ้า อำเภอตาคลี อำเภอไพศาลี อำเภอท่าตะโก และจังหวัดสุพรรณบุรี จากหลายตำบล ประมาณ 500 คน มารวมตัวกัน ณ ที่ว่าการอำเภอตากฟ้า เพื่อแสดงพลัง สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้รัฐบาล โดย ยื่นหนังสือต่อ นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัคนครสวรรค์ แบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายพีระเดช ศิริวันสาณฑ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขต 5 พรรคภูมิใจไทย นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครคสวรรค์ นางพนิดา วานิชรัตน์ พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ นายคมกฤช อุทะโก เกษตรจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับเรื่องร้องเรียน ซึ่งกลุ่มเกษตรกร ได้ทำหนังสือร้องเรียนใน เรื่อง ข้าวโพดจีเอ็มโอนำเข้าเสี่ยงจะบ่อนทำลายเศรษฐกิจท้องถิ่นเกษตรไร่นาไทย

โดยเนื้อหาว่าจากการที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบชพ.) เมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนาขน 2568 เวลา 13.00 น. มีมติส่วนใหญ่ให้นำเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรม จากอเมริกาได้ในกรอบ 1.0 ล้านต้น ให้อยู่ในมาตรการ 3:1 โดยให้เอกชนเป็นผู้นำเข้าได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าว ที่กระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และเป็นผู้สร้างรายได้ต้นน้ำทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งที่ผลผลิตวัตถุดิบหมวดพลังงานในประเทศทั้งหมดมีเพียงพอและอยู่ในสภาวะลิ้นตลาดในปัจจุบัน แต่หลังจากมีการเจรจามาตรการทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ผลปรากฏว่าเกิดเงื่อนไขที่เลวร้ายมากขึ้น โดยจะมีการเปิดโอกาศให้นำเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรมเข้ามาได้ถึง 3.0 ล้านต้น และขังจะให้นำเข้ากากข้าวโพด (DDDGS) อัตราอากรนำเข้าเป็น 0% ในปริมาณ 1.0 ล้านต้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขข้อตกลงโดยไม่สนใจถึงผลกระทบอย่างไร้ความปราณี ไร้ความเท่าเทียมในสังคม แถมด้อยค่าในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวไร่ชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติและผู้เป็นรากฐานทางเศรษฐกิจ ผู้สร้างความมั่นคงทางอาหาร และเป็นผู้ก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่องทางเศรษฐกิจท้องถิ่นมานับตั้งแต่มีประวัติศาสตร์ประเทศไทย และเป็นประเทศที่มีพื้มีพื้นที่และภูมิศาสตร์เหมาะกับเกษตรกรรม สุดท้ายเสี่ยงที่จะทำลายความั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว

จากสร้างความเหลื่อมลำทางรายได้ การเติบโตของ GDP ที่ไม่เสมอภาคกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มผลประโยชน์ไม่กี่กลุ่มการวางแผนอย่างเป็นระบบมากกว่า 10 ปี ที่ทำให้เกิดการตัดสินใจเปิดโอกาสให้นำเข้าเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรมจากอเมริกาและวัตถุดิบทดแทนในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่สวนทางกับรัฐบาลของกลุ่มประเทศมหาอำนาจหลายประเทศ ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย และออสเตรเลีย ทุกประเทศต่างพยายามปกป้อง ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาอาชีพทำไร่ทำนา รวมถึงเสริมด้านการตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงกับอุดหนุนทางการเงินเพื่อให้ส่งออกไปเข่งขันในตลานตลาดได้ เพราะ ถึงแม้ GDP จากภาคเกษตรไร่นาจะไม่สูง แต่มันคือความมั่นคงของประเทศ เพราะเป็นช่วยรองรับแรงกระแทกจากวิกฤติเศรษฐกิจที่มีต่อภาคอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ สมาคมการค้าพืชไร่และเกษตรกรชาวไร่ขาวนาไทย ขอให้ผู้ที่ทำกับดูแลตามแนวทางดังต่อไปนี
1. ยับยั้งการนำเข้าข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรมและ DDGS จากประเทศอเมริกา หรือชะลอ
ไม่ให้มีการรนำเข้าวัตถุดิบทดแทนจากต่างประเทศ ในสการที่วัตถุดิบหนาดพลังหลัง
ไทยทั้งหมดยังล้มตลาดอยู่ ไม่ควรนำเข้าวัดถุดิบทดแทนต่างๆในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว
2. กำหนดมาตรการยกระดับราคาผลผลิต ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และจากพื้นที่ไร่นาภายในประเทศ ให้เกษตรกรพอมีกำไรในการดำรงชีพเพียงพอต่อการชำระหนี้
3. สนับสนุนให้โรงงานอาหารสัตว์ไทยพึ่งพาวัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจองถิ่นและภูมิภาคมากยิ่งขึ้งขึ้น
4. ไม่เป็นเครื่องมือในการสร้างการค้าผูกขาดให้กับธุรกิจ ปกป้องอธิปไตยทางอาหารและอธิปไตยทางการตลาดพืชวัตถุดิบหมวดพลัง
6. ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) มีการสำรวจปริมาณข้าวโพดต่อไร่อย่าง โปร่งใส
7. ให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อในช่วงเวลาผลผลิตกายในประเทศออก และควรรับซื้อมากกว่ากำลังการผลิต 2-3 เท่า
ซึ่งเบื้องต้น วันพุธ 20 ส.ค. 2568 ทางคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ จะขอคิวปรึกษาหารือในเรื่องนี้ต่อไป

ในประเทศ

Related posts